Tuesday, May 17, 2011

30, flirty, and thriving!





สวัสดีคุณนายทั้งหลาย

โดยเฉพาะคุณนายทุกท่านที่เป็น thirty something ที่ยังโสดอยู่ รู้สึกกันอยู่บ้างไหมว่าชีวิตมันช่างลำบาก แต่ละครั้งแต่ละคราวที่ต้องเผชิญกับคำถามและคำเตือนที่มาจากความหวังดีของคนรอบข้าง รู้สึกกดดันหรือเหนื่อยบ้างไหม

เบื่อไหม เวลาที่ต้องไปงานแต่งงานคนเดียว กลับคนเดียว ต้องไปมองหาคนที่รู้จักในงานจะได้ไม่ต้องยืนกร่อยอยู่คนเดียว หรือไม่ก็ต้องโทรหาเพื่อนสาวโสดคนอื่นเพื่อนัดกันไป เวลาเห็นวิดีโอพรีเซ็นเทชั่นของคู่บ่าวสาวแล้วนึกอยู่ในใจลึกๆ ว่าถ้าเป็นงานเรา เราจะใช้เพลงอะไร แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

เบื่อไหม เวลาไปกินข้าวรวมญาติ แล้วญาติๆ ชอบถามคำถามเดิมๆว่าเมื่อไหร่จะพาแฟนมาหา เมื่อไหร่จะแต่งงาน สามสิบแล้ว แต่งได้แล้ว ฯลฯ แล้วเราได้แต่กลืนน้ำลาย ยิ้มแหยๆ แต่ไม่รู้จะตอบว่าอะไร

เบื่อไหม เวลาไปกินข้าวเลี้ยงรุ่นกับเพื่อน แล้วเพื่อนเข้ามาทักว่าเป็นไงบ้าง มีแฟนรึยัง สามสิบแล้ว แต่งได้แล้ว มีครอบครัวมันดีงั้นงี้ ฯลฯ เคยคิดอยากตอบกลับไปไหมว่า อือม ถ้าไม่มีอะไรจะคุย ก็ชวนคุยเรื่องฝนฟ้าอากาศก็ได้นะ เรื่องนี้ไม่ค่อยอยากคุย

เบื่อไหม เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วเห็นวิวสวยๆ น่าประทับใจ น่าเก็บไว้ในความทรงจำ แล้วอยากจะแบ่งความรู้สึกดีๆ นั้นกับใครซักคนที่เป็นคนพิเศษ แล้วไม่รู้จะโทรหาใครดี จะโทรหาเพื่อนสาวกับเรื่องแบบนี้ มันก็ไม่ใช่ซักทีเดียว

เบื่อไหม เวลาขับรถพาพ่อแม่ไปที่ใดที่ไหน กะว่าวันนี้เราทำตัวเป็นคุณลูกสาวที่น่ารัก แล้วแม่ถามว่า ลูกจ๋า มีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้แล้ว แต่งได้แล้วลูก เราไม่เด็กแล้วนะ แม่จะได้เลิกกังวลเรื่องเราซะที แล้วเราก็เซ็งจนอดเถียงแม่ไม่ได้ แล้วเราก็มาเซ็งต่อที่เผลอไปเถียงแม่

สาวๆจ๋า... ชีวิตมันก็ยากอยู่แล้วนะ ไหนจะต้องต่อสู้ในที่ทำงาน ต้องให้ผลงานเข้าตากรรมการ ต้องดูแลลูกน้อง ดูแลธุรกิจให้ราบรื่น ไหนจะต้องดูแลพ่อแม่พี่น้อง ญาติโก ทั้งหลายที่ตั้งความหวังกับเราให้เราเป็นลูกสาว, พี่สาว, น้องสาว, หลานสาวที่ดี ไหนจะต้องดูแลตัวเองให่ไม่อ้วน ไม่แก่ ไม่เหียว ไม่ดำ ไม่ป่วย ไม่โทรม ในยุคที่สาวประเภทสองสวย ขาว สูง และขาเรียวกว่าเราหลายเท่า ไหนจะต้องทำใจให้ได้กับเหตุการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวาย เดี๋ยวเสื้อเหลือง เสื้อแดง นายกหน้าเหลี่ยม นายกหน้าหล่อ รัฐบาลทะเลาะกันเอง ฝ่ายค้านค้านแบบหน้าด้านๆ เดี๋ยวเผาเมือง เดี๋ยวยุบสภาฯ พระข่มขืนเณร เด็กชนคนตายแล้วไม่มีความผิด ฯลฯ

ชีวิตมันยาก และเหนื่อย และกดดันมากพออยู่แล้ว... ทำไมถึงอยากเพิ่มเรื่องไอ้สถานะที่คุณเป็นโสดมากดดันตัวเองอีกเรื่องนึงเล่า ในทั้งหมดทุกคนที่กดดันคุณอยู่ ความรู้สึกของตัวคุณเองเนี่ยแหล่ะสำคัญสุด และมีความหมายมากสุด ถ้าเราเองยังกดดัน ตำหนิ ต่อว่าตัวเองอยู่ จะคิดต่อสู้ความกดดันที่มาจากคนอื่นได้ยังไงล่ะจ๊ะ

ตัวคุณเองน่ะเจ๋งจะตายไป รู้ตัวบ้างรึเปล่า ชีวิตก็ดี การงานก็ดี (เพิ่มหน้าตาก็ดีเข้าไปอีกหนึ่ง) อยากให้คุณตระหนักถึงความเยี่ยมยอดของตัวเอง แล้วยืดอกน้อมรับสถานภาพโสดอย่างเต็มภาคภูมิ แล้วบอกกับตัวเองและคนรอบข้างว่า "ก็ชั้นเลือกจะโสด ใครจะทำไม ชั้นเองยังไม่เดือดร้อน ชีวิตชั้นก็มีความสุขดีแล้วคุณคนอื่นๆ จะเดือดร้อนกันแทนชั้นทำไมกันจ๊ะ" (พร้อมแจกยิ้มกว้างแบบจริงใจสุดๆ)

และการที่คุณอยู่ในช่วง thirty something กันแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าคุณต้องรีบตะครุบหนุ่มคนต่อไปที่เข้ามาในชีวิตนะจ๊ะ ก็ในเมื่อมันรอมาได้ขนาดนี้แล้ว รอต่อไปอีกซักหน่อย ก็คงไม่เป็นไรมั้ง แล้วถึงรอแล้วไม่มา ก็คงไม่เป็นไรอีกนั่นแหล่ะ ดีกว่าลงเอยไปกับคนที่ไม่ใช่ เพียงเพื่อที่จะหนีสถานภาพโสดของตัวเอง อย่างนั้นมันคงเศร้าเกินไปจริงๆ

เคยดูหนังเรื่อง 13 Going on 30 กันรึเปล่า ในหนังเค้าพูดถึงผู้หญิงอายุ 30 ไว้ว่า "30, flirty, and thriving!" นั่นล่ะ สาวเลขสามตัวจริง ถ้ายังไม่รู้สึกดีขึ้น ให้ไปดู Sex and the City series ที่พูดถึงผู้หญิง 30 something สี่คนที่ fab สุดๆ ที่ไม่ว่าจะมีผู้ชายหรือไม่มี ชีวิตก็เริ่ดเชิดหยิ่งอยู่ได้ อ่ะ ถ้ายังไม่รู้สึกดีขึ้นอีก ให้ไปฟังเพลง "สามสิบยังแจ๋ว" ของยอดรัก สลักใจอีกเพลงละกัน

อยากให้สาวๆ ทุกคนใช้ชีวิตช่วงเลขสามกันอย่างเปี่ยมสุข อย่างมีศักดิ์ศรี อย่างเต็มไปด้วยความรัก... รักใครน่ะเหรอ ก็รักตัวเองนี่แหล่ะ ง่ายจะตายไป เริ่มจากคนที่ใกล้ตัวคุณที่สุดคนนี้ก่อน แล้วถ้ามีผู้ชายที่โชคดีคนนั้นปรากฎขึ้นมาในชีวิต ค่อยคิดและพิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนจะเผื่อแผ่ความรักที่มีอยู่เพียบไปให้เค้าก็ละกัน

No comments:

Post a Comment