Sunday, April 8, 2012

คุณนายแม่




ผู้หญิง(เกือบ)ทุกคนคิดอยากจะจัดงานแต่งงานในฝันของตน ขนาดผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้แต่งเมื่อไหร่ หรือพวกที่เลิกคิดเรื่องจะแต่งไปแล้ว ก็ยังมีงานแต่งงานในฝัน คือแบบ ไม่ต้องมีสามีตัวตนจริงๆ ก็ได้ ขอให้ได้จัดงานแต่งงานซักครั้งในชีวิต ก็ฟินมากแล้ว

ผู้หญิงที่เป็นแม่คนไปแล้วก็มีความฝันเหมือนกัน ความฝันที่จะได้จัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวของตน คุณนายไม่แน่ใจว่าความฝันนี้เริ่มต้นขึ้นตอนไหน ตั้งแต่แม่ตั้งท้องเรา เลือกชุดเบบี๋สีชมพูสวยๆ ให้เราใส่ หรือทาสีห้องนอนให้เราเป็นสีชมพูพร้อมลายเฮลโหลคิตตี้ หรือวันที่พาเราไปงานแต่งงานในชุดไหมแก้วกระโปรงพองฟูฟ่อง หรือวันที่เราพาผช.ของเรามาที่บ้านให้แม่รู้จัก

เอาเป็นว่าไม่ว่าความฝันของคนเป็นแม่จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ คุณนายอยากกระซิบให้คุณนายว่าที่เจ้าสาวคนอื่นๆ ได้ฟังว่า อย่าได้มองข้ามความฝันอันนี้เป็นอันขาด มันยิ่งใหญ่ ฝังลึก ความคาดหวังมันมากมาย มากกว่าของว่าที่เจ้าสาวเองมากมายนัก มากจนหลายครั้งเรางงว่าใครกันแต่งกันแน่ ใครว่าคุณนายเนี่ย "เยอะ" แล้ว ขอเชิญพบกับ "คุณนายแม่" ก่อนแล้วกัน

ใครที่มีคุณนายแม่ที่ไม่เจ้ากี้เจ้าการ ไม่บงการ ไม่คาดหวัง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานของคุณ ก็ถือว่าโชคดีไป ตอนแรกเนี่ย คุณนายแอบอึดอัดมากกก ก็แหม.. งานของเรา เงินของเรา (จริงๆ ก็ไม่ใช่เงินของเราหรอก เงินของผช.มากกว่า) ทำไมต้องมาตามใจคุณนายแม่กันด้วยเล่า แต่หลังจากผ่านประสบการณ์สองเดือนของการเตรียมงานอย่างเข้มข้น คุณนายอยากบอกว่า การที่คุณนายแม่มีส่วนร่วมในการจัดงานของคุณมันเป็นสิ่งที่ดีถึงดีมากถึงดีที่สุดจริงๆ

ก็ลองคิดดูสิว่า ถ้าคุณนายแม่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งต่างๆ ที่เราเลือก ที่เราจะจัด แล้วเค้าไม่แฮปปี้เนี่ย คุณนายจะแฮปปี้ออกเหรอ ลองนึกภาพคุณนายแม่บ่นจุบจิบเรื่องงานแต่งของเราตลอดเวลาทุกวันๆ จนถึงวันแต่งจริงๆ รับรองคุณนายได้เครียดขึ้นสมองหลายสิบรอบก่อนถึงวันงาน อีกอย่าง หลายๆครั้ง เค้าก็ช่วยเรามองต่างมุมและเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็น เพราะเค้าก็มีประสบการณ์มามากกว่าเราจริงๆ

ขอแอบบอกเคล็ดลับของความราบรื่นระหว่างคุณนายกับคุณนายแม่นิดนึงค่ะ คือคุณนายต้องชัดในตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คุณนายต้องการจริงๆ คืออะไร เช่น ยังไงชั้นก็อยากจัดที่ทะเล ยังไงชั้นก็อยากเซฟเงิน ยังไงชั้นก็อยากได้โรงแรมห้าดาว อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ แล้วอะไรคือสิ่งที่คุณนายแม่ต้องการจริงๆ เช่น ยังไงก็ต้องโต๊ะจีน ยังไงก็ต้องมีผู้ใหญ่ที่เค้านับถือกล่าวคำอวยพร หรืออะไร แล้วให้ในสิ่งที่เค้าต้องการขณะที่เราก็เก็บในสิ่งที่เราต้องการ เราก็จะได้สิ่งที่ทั้งสองต้องการ

ถ้าคุณนายแม่โน้มน้าวใจลำบาก คนที่ช่วยได้คือญาติพี่น้อง เพราะคุณนายแม่มักจะฟังคำญาติพี่น้องมากกว่าลูกสาวตัวเอง ไม่ต้องไปอีโก้มาก อะไรก็ได้ที่ช่วยให้งานสำเร็จ โทรไปขอร้องให้ญาติช่วยพูดให้ ง่ายกว่ากันเป็นไหนๆ

ให้ความสำคัญกับเค้าให้มากๆ ให้เค้าได้มีส่วนร่วมในเรื่องที่เค้าอยากมี เช่นการเลือกที่จัด ให้เค้าได้ไปดูโรงแรมหรือที่จัดงานด้วย เค้าจะเป็นสุขมาก เคล็ดลับคือพาเค้าไปเฉพาะที่ที่่เราอยากจัดเท่านั้น เค้าก็จะเลือกหนึ่งในที่ที่เราอยากได้นั่นเอง เค้าก็แฮปปี้ด้วย เริ่ดเนอะ

อ้อ.. ที่สำคัญ คุณนายแม่นั้นจะช่วยเราต่อรองกับเซลได้อย่างมากมายอย่างที่เราเองไม่สามารถทำได้ เซลจะเกรงใจคุณนายแม่มากกว่าเราหลายเท่า

นอกจากนี้ พวกรายละเอียดเรื่องพิธีรีตอง ระบบธรรมเนียมประเพณี คุณนายคิดเหรอว่าตัวเองจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง คุณนายแม่ของดิฉันร่ายยาวเรื่องงานพิธีได้ระดับนาทีต่อนาทีทั้งที่งานจริงอีกแปดเดือนข้างหน้า คุณนายแม่ลงรายละเอียดอย่างกับว่าจะจัดอาทิตย์หน้า อันนี้เป็นสัญญาณที่ดีมากว่าคุณนายแม่เอ็นจอยกับการได้เป็นแม่งานแค่ไหน


สุดท้ายอยากบอกว่า งานแต่งงานเป็นความฝันของผู้หญิงทั้งหลาย ผู้หญิงผู้เป็นแม่เค้าก็ฝันเหมือนกัน เค้าก็อยากส่งเราออกไปอย่างมีสไตล์(ในแบบเค้า)เหมือนกัน ช่วยทำให้ฝันของคุณนายแม่เป็นจริงด้วยนะว่าที่เจ้าสาวทั้งหลาย...

No comments:

Post a Comment